Friday, 24 March 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักค้นคว้าศึกษาค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเกิด โรคมะเร็งปอด ได้เช่นไร ซึ่งถือได้ว่าเป็นการศึกษาค้นพบที่แปลงความรู้ความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่เคยแม้แต่จะสูบบุหรี่เลย

เมื่อเดือน ก.ย. ทีมงานวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า มลพิษทางอากาศส่งผลให้เกิดมะเร็งปอดได้จริง ถึงแม้ในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากกว่าการผลิตความทรุดโทรมให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสุดยอดหมายถึงศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ สแวนตัน กล่าวว่า การศึกษาค้นพบดังที่กล่าวมาแล้วทำให้วงการแพทย์ “เข้าสู่สมัยใหม่” รวมทั้งบางทีอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการพัฒนาตัวยา เพื่อยั้งโรคมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด ปกติแล้ว การก่อตัวของโรคมะเร็งจะกำเนิดเป็นลำดับขั้นตอนหมายถึงเริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆมีการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนกระทั่งจุดที่กลายเป็นเซลล์ไม่ดีเหมือนปกติ สู่เซลล์ของโรคมะเร็ง รวมทั้งเติบโตอย่างควบคุมมิได้

แต่แนวคิดการเกิดโรคมะเร็งเช่นนี้ มีปัญหา เพราะเหตุว่าการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้เกิดขึ้นในเยื่อที่แข็งแรง แต่กลับกลายเป็นว่าต้นตอของโรคมะเร็ง รวมถึงมลพิษทางอากาศ มิได้สร้างความย่ำแย่ต่อดีเอ็นเอ แต่เป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกรอบมากกว่า

ศาสตราจารย์ สแวนตัน กล่าวว่า “การเสี่ยงกำเนิดมะเร็งปอดจากมลพิษทางอากาศ มีน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แต่เพราะเหตุว่ามนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ รวมทั้งทั่วทั้งโลก ผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศมากเพิ่มขึ้นกว่า การสูดสารเคมีที่เป็นพิษจากควันของบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักค้นคว้าซึ่งดำเนินการอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ศึกษาค้นพบหลักฐานถึงแนวคิดใหม่ถึงการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ โดยกล่าวว่า อันที่จริงแล้ว ความทรุดโทรมได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในระหว่างที่พวกเราเติบโตรวมทั้งมีอายุมากเพิ่มขึ้น

มลพิษทางอากาศ

แต่ควรมีสิ่งที่มากระตุ้นความเสียหายในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้

การศึกษาค้นพบนี้ มาจากการตรวจสอบว่าทำไมบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ถึงเป็นโรคมะเร็งปอด แน่ๆว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่ของคนไข้มะเร็งปอดมาจากการสูบบุหรี่ แต่ก็พบว่า 1 ใน 10 ของคนไข้มะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร มีเหตุที่เกิดจากมลพิษทางอากาศ

ทีมงานวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความสำคัญกับอนุภาคฝุ่นหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์

รวมทั้งเมื่อปฏิบัติการทดสอบในสัตว์รวมทั้งมนุษย์อย่างละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง จะเจอคนไข้โรคมะเร็งปอดที่มิได้มีต้นเหตุจากการสูบบุหรี่ ในสัดส่วนที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 เข้าไปในร่างกาย จะเป็นตัวกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการสนองตอบทางเคมี จนถึงนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการอักเสบ จนถึงร่างกายจำต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาซ่อมแซม

แต่เซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีอย่างน้อยหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของโรคมะเร็งได้ ซึ่งธรรมดาแล้ว ร่างกายจะกำเนิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่เซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ จวบจนกระทั่งจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การศึกษาค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่าหมายถึงนักค้นคว้าสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปล่อยให้พบเจออยู่ในสถานการณ์มลพิษทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยั้งการโต้ตอบทางเคมีดังที่กล่าวมาแล้ว ผลจึงถือได้ว่าเป็นการศึกษาค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบของมลพิษทางอากาศ รวมทั้งหลักการกำเนิดโรคมะเร็งในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในผู้วิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกรวมทั้งยูซีแอล กล่าวว่า ปกติแล้ว บุคคลที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย แต่กลับเป็นโรคมะเร็งปอด ชอบไม่เคยทราบถึงต้นเหตุ

“ด้วยเหตุผลดังกล่าว การให้เบาะแสพวกเขาถึงต้นเหตุการเกิดโรคมะเร็ง จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก” รวมทั้ง “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลพิษทางอากาศ สูงกำเนิดกว่าข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องโรคมะเร็งเสียใหม่

ผลของการทดลองนี้ ยังชี้ให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่สาเหตุนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเกิดโรคมะเร็งเสมอ แต่อาจมีสาเหตุอื่นเสริมด้วย

ศาสตราจารย์ สแวนตัน กล่าวว่า การศึกษาค้นพบที่น่าระทึกใจที่สุดในห้องแลปหมายถึง“แนวคิดการเกิดเนื้องอกที่จำต้องหันกลับมาทวนเสียใหม่” รวมทั้งนี่บางทีอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิด “สมัยใหม่” ของการคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งในระดับโมเลกุล อาทิ แนวคิดที่ว่าถ้าเกิดคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต้านโรคมะเร็งได้ เพื่อลดการเสี่ยง

ศาสตราจารย์ สแวนตัน บอกกับบีบีซีว่า พวกเราบางทีอาจจำต้องพิจารณาถึงหลักการที่ว่า การสูบบุหรี่ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง ด้วย รวมทั้งความจริง แนวคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง เพราะเหตุว่าควรมีสาเหตุอื่นกระตุ้นให้เซลล์ของโรคมะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็ตาม มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า เดี๋ยวนี้ “บุหรี่ยังเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอด” แต่ “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างหนักนับเป็นเวลาหลายปี รวมทั้งกำลังเปลี่ยนแปลงแนวคิดว่าโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เช่นไร รวมทั้งช่วงนี้ พวกเรามีความรู้ความสามารถถึงสิ่งกระตุ้นให้กำเนิดโรคมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วมะเร็งปอดพบเจอได้มากมากแค่ไหน ชมรมอเมริกันแคนเซอร์ กล่าวว่า มะเร็งปอดทั้งยังแบบชนิดเซลล์เล็ก รวมทั้งชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ขณะที่ในผู้ชายนั้น โรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดคือมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนผู้หญิงนั้น จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม

ทางชมรมประเมินว่า ปี 2022 เจอคนไข้มะเร็งปอดมากเพิ่มขึ้น 236,740 คน รวมทั้งเสียชีวิต 130,180 คน โดยคนไข้มะเร็งปอดส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงวัย 65 ปีขึ้นไป แต่ก็มีโอกาส แม้จะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชต่ำกว่า 45 ปี จะเป็นโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของคนไข้มะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

มะเร็งปอดยังคิดเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกือบจะ 25% ของผู้ตายจากโรคมะเร็งทั้งหมด

สำหรับเมืองไทยนั้น นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วทั้งโลก สำหรับเมืองไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งพบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย รวมทั้งอันดับ 5 ในผู้หญิง แต่ละปีจะมีคนไข้รายใหม่โดยประมาณ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย รวมทั้งผู้หญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ตายโดยประมาณ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดเป็นการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันของบุหรี่มือสองรวมทั้งการสัมผัสสารก่อโรคมะเร็ง อาทิ ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย รวมทั้งมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี